ในการเลือกเต็นท์เพื่อไปใช้งานนั้นมีหลายองค์ประกอบที่ต้องพิจารณาและหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือเรื่องของขนาดเต็นท์ที่ส่งผลต่อการเลือกใช้เต็นท์ ทั้งเต็นท์เล็ก และเต็นท์ใหญ่ ก็จะมีความจำเป็นที่ต้องการใช้ที่ต่างกัน การเลือกใช้เต็นท์ที่ขนาดต่างกันนี้ก็ต้องใช้วิธีการเลือกเพื่อให้ได้ขนาดเต็นท์ที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน จะใช้หลักเกณฑ์หรือคุณสมบัติใดมาเพื่อแบ่งขนาดของเต็นท์ได้นั้นมาศึกษากัน
1.เหตุผลด้านความปลอดภัย
1.1 ลักษณะของการใช้งาน
เพราะการใช้เต็นท์ที่มีขนาดต่างกันลักษณะการนำไปใช้งานเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นตัวกำหนดได้เช่น เต็นท์ที่ใช้ในการตั้งแคมป์ที่ต้องมีการเดินทางระยะไกล ควรเป็นเต็นท์ขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาง่ายกางและติดตั้งได้ง่าย เช่น เต็นท์ Pop-up หรือเต็นท์โดม เป็นต้น หากต้องการพักเป็นเต็นท์รีสอร์ตสะดวกสบายกว้างขวางก็ควรเป็นเต็นท์ใหญ่ที่เหมาะสมตามความต้องการเป็นต้น
1.2 ขนาดที่เพียงพอต่อการเข้าพักและการบรรจุสัมภาระ
ควรพิจารณาขนาดของเต็นท์จากจำนวนผู้ที่เข้าพักในเต็นท์นั้นๆ รวมไปถึงสัมภาระที่ต้องเอาไว้ในเต็นท์ด้วย เต็นท์ไม่ควรเป็นเต็นท์ที่เล็กจนเกินไปจนทำให้ผู้พักอาศัยอยู่อย่างคับแคบจนอึดอัด หรือเต็นท์ใหญ่เกินไปเกินความจำเป็นทำให้เป็นภาระในการขนย้าย รวมไปถึงใช้เวลาในการติดตั้งและรื้อถอนนานเกินไป
1.3 ความแข็งแรงของตัวเต็นท์
ยิ่งเต็นท์ใหญ่ขนาดไหนก็ควรมีความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะเต็นท์ใหญ่ก็ต้องรองรับผู้เข้าพักและสัมภาระจำนวนมากกว่าเต็นท์เล็ก ดังนั้นเต็นท์ต้องมีความสำคัญในขณะที่ใช้งาน ดังนั้นการเลือกเต็นท์เล็กหรือเต็นท์ใหญ่ก็ต้องให้ความสำคัญเรื่องความแข็งแรงและคงทนของตัวเต็นท์ให้มากด้วย
2.เหตุผลเรื่องการเดินทาง
2.1 น้ำหนักของเต็นท์
น้ำหนักของเต็นท์ส่งผลต่อการเดินทาง เพราะหากมีเต็นท์มีน้ำหนักมากสัมภาระที่ต้องขนย้ายไปแคมป์ปิ้งด้วยก็ต้องมีน้ำหนักที่มากขึ้นตามไปด้วยซึ่งจะทำให้เพิ่มความเมื่อยล้าให้แก่นักแคมป์ปิ้งมากขึ้นไปอีก ดังนั้นก่อนจะเลือกขนาดเต็นท์ใหญ่ขึ้นจากเดิม ควรพิจารณาให้ดีว่าสมควรแล้วหรือไม่ เพราะอาจก่อภาระให้มากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ
2.2 ขนาดของเต็นท์เวลาที่มีการพับเก็บแล้ว
ขนาดที่พับเก็บแล้วไม่ควรมีขนาดที่ใหญ่มากจนเกินไปจนไปกินที่สัมภาระอื่นๆ มากเกินไป ควรเลือกเต็นท์ที่สามารถพกพาได้สะดวกไปพร้อมๆ กับสัมภาระอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์เล็กหรือเต็นท์ใหญ่ก็ควรเป็นเต็นท์ที่พกพาได้ง่าย
2.3 ระยะทางในการเดินทางและสถานที่ที่ไปแคมป์ปิ้ง
เต็นท์ที่เลือกมาใช้งานไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ ควรเลือกให้เหมาะสมกับระยะทางที่เดินทางไปแคมป์ปิ้ง ว่าสามารถพกพาเต็นท์ขนาดและน้ำหนักดังกล่าวไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยได้หรือไม่ รวมไปถึงสถานที่แคมป์ปิ้งต่างๆ ที่ไปส่วนใหญ่นั้นสามารถนำเต็นท์ใหญ่ไปกางได้หรือไม่ ต้องประเมินถึงความเป็นไปได้และความคุ้มค่าตรงนี้เพิ่มด้วย
3.เหตุผลเรื่องการเก็บรักษา
3.1 การทำความสะอาดและการจัดเก็บ
สามารถทำความสะอาดได้ง่ายและสะดวกสบายหรือไม่ รวมถึงการจัดเก็บเต็นท์นั้นใช้เวลามากจนเกินไปหรือไม่ ควรพิจารณาเรื่องนี้ร่วมด้วย หากรู้สึกว่าเกินความจำเป็นก็ควรลดขนาดเต็นท์ที่จะใช้ลงมาให้เหมาะสม
3.2 บริเวณที่จัดเก็บ
ค้นหาว่ามีบริเวณที่จัดเก็บที่ดีและเพียงพอต่อขนาดของเต็นท์และเต็นท์สามารถอยู่ในพื้นที่จัดเก็บในสภาพที่ดีได้หรือไม่ เพราะสถานที่จัดเก็บที่ดีจะช่วยให้เต็นท์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นไปอีกได้